ตัวอย่างบางตอนจากหนังสือ นิเวศรัฐ

ความเป็นอยู่โดยปราศจากรถยนต์
ในเมืองใหม่ของนิเวศรัฐ

ซานฟรานซิสโก, 7 พฤษภาคม. ในระบบการปกครองใหม่ นครของนิเวศรัฐซึ่งตั้งมั่นอยู่แล้วจะแตกออกไปเป็นกลุ่มเพื่อนบ้านหรือชุมชนในระดับหนึ่ง แต่พวกเขายังคงถือว่ายังห่างไกลจากแนวทางในการพัฒนารูปแบบชีวิตความเป็นอยู่ของนิเวศรัฐในระยะยาวที่คิดเอาไว้ ผมเพิ่งได้มีโอกาสไปพบเห็นเมืองจิ๋วเกิดใหม่ เพื่อเป็นชุมชนเมืองในสังคม ซึ่งมีการกระจายจากส่วนกลาง เมืองอัลวิโซซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นหมู่บ้านเงียบๆ ตั้งอยู่ชายฝั่งตอนใต้ของอ่าวซานฟรานซิสโก จะไปถึงที่นั่นได้โดยรถพ่วงระหว่างเมือง ซึ่งจะสุดทางที่ใต้กลุ่มอาคารขนาดใหญ่ ปรากฏว่าอาคารหลักไม่ใช้ศาลาเทศบาลหรือว่าศาล แต่เป็นโรงงานแห่งหนึ่งซึ่งผลิตรถลากไฟฟ้า ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นรถยนต์หรือรถบรรทุกตามความหมายของเราได้ รถลากนี้ใช้ในการขนถ่ายคนและสินค้าในเมืองของนิเวศรัฐต่างๆ และใช้ในการขนส่งทั่วๆไปในชนบท (ยานพาหนะส่วนตัวถูกห้ามเข้าในเขต "ปลอดรถยนต์" ในไม่ช้า หลังจากเป็นเอกรัฐ เขตเหล่านี้ในตอนแรกครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ใจกลางเมืองซึ่งมีปัญหามลภาวะและปัญหาจราจรคับคั่งรุนแรง เมื่อบริการมินิบัสขยายออกไป ก็มีการขยายเขตปลอดรถยนต์ออกไปด้วย และปัจจุบันจะคลุมพื้นที่ที่มีการอยู่อาศัยอย่างแน่นหนาในเมืองทั้งหมด)

รอบๆโรงงาน ซึ่งถ้าเป็นแบบเราจะมีที่จอดรถขนาดใหญ่ แต่ที่อัลวิโซมีกลุ่มอาคารกระจัดกระจายรอบๆ และมีต้นไม้ทุกหนแห่ง มีภัตตาคาร ห้องสมุด ร้านขนมปัง "ร้านหลัก" ที่ขายสินค้าเบ็ดเตล็ดและเสื้อผ้า ร้านค้าขนาดเล็ก แม้กระทั่งโรงงานและโรงปฏิบัติงาน ทั้งหมดนี้คละกันอยู่ตามอาคาร ซึ่งโดยทั่วไปสูงสามสี่ชั้น สร้างขึ้นโดยมสนามกว้างอยู่ตรงกลางเป็นแบบที่เห็นทั่วไปในปารีส ส่วนใหญ่สร้างขึ้นด้วยไม้ ซึ่งเป็นวัสดุก่อสร้างที่ใช้ทั่วไปในนิเวศรัฐ เนื่องจากมีโครงการปลุกป่าทดแทน ถึงแม้ว่าอาคารเหล่านี้จะดูพ้นสมัยแต่ก็มีระเบียงเล้กยื่นออกมาดูน่ารัก มีสวนระย้า เฉลียงซึ่งจะมีพันธุ์ไม้ประดับหรือแม้กระทั่งต้นไม่ขนาดเล็ก ตัวอาคารชุดอยู่อาศัยเองใหญ่มากๆ เมื่อเทียบกับมาตรฐานของเรา มีห้องตั้งแต่ 10 ถึง 15 ห้อง เพื่อรองรับกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตรวมหมู่

ถนนของอัลวิโซมีชื่อเรียก ไม่ได้มีการเรียกเป็นหมายเลข มักจะเป็นทางแคบและคดเคี้ยวอย่างกับทางในเมืองสมัยกลาง ไม่ง่ายสำหรับคนแปลกหน้าจะเทียวไปเทียวมา ถนนเหล่านี้ไม่กว้างพอสำหรับรถ 2 คันที่จะแซง แต่แน่นอนว่าไม่ได้มีรถยนต์ก็เลยไม่เป็นปัญหา คนเดินเท้าและคนขับขี่จักรยานจะอ้อมไปวกมา นานๆครั้งจะเห็นรถบรรทุกส่งของเคลื่อนย้ายเครื่องเรือนหรือสิ่งที่มีขนาดใหญ่ แต่ชาวนิเวศรัฐจะหอบหิ้วข้าวของที่ซื้อกลับบ้านโดยใช้ถุงมีหูหิ้วหรือใส่ตระกร้าจักรยาน สินค้าที่ส่งมายังร้านค้า ก็เช่นเดียวกับสินค้าส่วนใหญ่ในนิเวศรัฐที่ส่งมาทางตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งมีขนาดเล้กกว่าตู้คาร์โกคอนเทนเนอร์ของเรามากและมีขนาดพอเหมาะเข้ากันได้กับรถขนถ่าย และนำไปวางบนรถบรรทุกไฟฟ้าของพวกเขาได้ ยกตัวอย่างเช่น ผลผลิตจากฟาร์มจะบรรจุมาในตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวที่ฟาร์ม หรือที่สถานีขนถ่ายจะมีระบบสายพานใต้ดินซึ่งเชื่อมต่อกับร้านค้าและโรงงานในเมืองจิ๋ว แต่ละแห่งจะมีสายพานแยกเพื่อยกตู้คอนเทนเนอร์เหล่านั้นออกมา ความคิดนี้อาจเกิดมาจากโรงเก็บของติดตั้งระบบอัตโนมัติของเรา แต่กลับทางกัน ปรากฏว่าใช้งานได้ดี ถึงแม้ว่าคงจะวุ่นวายเอามากๆถ้ามีการติดขัดเกิดขึ้นใต้ดิน

มัคคุเทศก์ที่พาผมชมที่นี่เป็นนักศึกษา 2 คน ซึ่งเพิ่งผ่านการฝึกงานเป็นเวลา 1 ปีในโรงงาน พวกเขามีข้อมูลและการสังเกตการณ์ต่างๆที่พร้อมมูล ปรากฏว่าประชากรทั้งหมดของอัลวิโซ ประมาณ 9,000 คน พำนักอยู่ภายในบริเวณรัศมีครึ่งไมล์จากสถานีเปลี่ยนรถ แต่ถึงแม้จะแน่นหนาเช่นนี้ ก็ยังมีสถานที่ซึ่งมีลักษณะเป็นสวนสาธารณะย่อมๆ บางครั้งก็แค่เพียงขยายความกว้างของถนน บางครั้งก็คือสวนซึ่งทำขึ้นมา มีต้นไม้อยู่ทุกหนแห่ง ไม่ได้มีที่ว่างปูพื้นขนาดใหญ่ซึ่งรับแสงอาทิตย์โดยตรง รอบๆชานเมืองจะเป็นโรงเรียนและสนามเด็กเล่นต่างๆ ที่มุมเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนทอจะเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำขังและแอ่งโคลนของอ่าว มีการขุดลอกหน้าท่าเทียบเรือสำหรับเรือขนาดเล็ก ซึ่งจะต่อกับร่องการเดินเรือซึ่งเรือขนส่งจะสามารถเทียบท่าของโรงงานได้เลย คนให้ข่าวสารผมยอมรับอย่างไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ว่า มีการส่งออกยานพาหนะซึ่งใช้ไฟฟ้า ชาวนิเวศรัฐจะสั่งเข้าโลหะนั่งได้เพียง 2 คน และมีกะบะเปิดเป็นรูปจัตุรัสเตยอยู่ข้างท้าย ด้านหลังของห้องโดยสารสามารถเหวี่ยงขึ้นเป็นหลังคา และบางครั้งจะขึงผ้าใบเพื่อปิดกะบะ

ยังคงมีการผลิตตัวถังแบบแท็กซี่อยู่แต่เป็นจำนวนน้อย ส่วนใหญ่จะใช้ในเมือหลังเป็นเอกรัฐ ในฐานะมาตรการปิดช่องว่างเฉพาะหนาในขณะที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างระบบมินิบัสและระบบขนส่ง ตัวถังเหล่านี้จะขึ้นรูปมาจากพลาสติกชนิดแข็งโดยใช้แม่พิมพ์ขนาดใหญ่

เป็นที่แน่ชัดว่ายายพาหนะซึ่งโบราณและกำลังต่ำอย่างนี้ ไม่อาจสนองตอบต่อความต้องการในเรื่องความเร็วและอิสระ ซึ่งได้รับการสนองด้วยดีจากอุตสาหกรรมรถยนต์อเมริกัน และแผนก่อสร้างทางหลวงอย่างเต็มกำลังของเรา ผมและมัคคุเทศก์เถียงกันอย่างเผ็ดร้อนในปัญหานี้ ซึ่งผมจำต้องยอมรับว่า พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นได้ว่ามีความรู้ดี ถึงสภาพซึ่งบางครั้งเกิดขึ้นกับทางด่วนในเมืองของเรา ซึ่งการเคลื่อนตัวไม่ว่าจะด้วยความเร็วใดๆนั้นอาจเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อผมถามถึงว่าทำไมนิเวศรัฐจึงไม่สร้างรถซึ่งมีความเร็วสูงสำหรับทางหลวงในชนบทความยาวนับพันไมล์ ซึ่งปัจจุบันไม่มีการจราจรติดขัดอีกแล้วแม้ว่าเขตทางหลวงบางแห่งจะมีรถพ่วงใช้แล้ว พวกเขากลับเงียบงันไป ผมพยายามจะหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความสงสัยลงไปในความคิดของพวกเขา ผมบอกพวกเขาว่า ไม่มีใครหรอกที่จะไม่หวั่นไหวไปกับความพึงใจถนนที่เปิดเต็มที่ และผมยกตัวอย่างว่าจะรู้สึกอย่างไรในรถแสนสบายกำลังสูง โดยมีเส้นผมของหญิงสาวพลิ้วตามลม …

เรารับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งใกล้โรงงานในท่ามกลางกลุ่มคนและคนงานซึ่งเอะอะรื่นเริง ผมสังเกตว่าพวกเขาดื่มไวน์ทำเองค่อนข้างมากพร้อมกับซุปและแซนด์วิช หลังจากนั้นเราก็ไปยังศาลาเทศบาลซึ่งเป็นอาคารสร้างด้วยไม้ ไม่แตกต่างจากอาคารชุดอยู่อาศัยอื่น ที่นั่นมีคนนำแผนที่สำหรับเมืองใหม่ที่อยู่ใกล้มาให้ดู แต่ละเมืองจะมีศูนย์กลางอยู่ที่จุดเปลี่ยนรถ ปรากฏว่าเมืองใหม่ทั้งหมดนี้กำลังก่อสร้างเป็นแนววงแหวนรอบอ่าว แต่ละเมืองจะมีชุมชนซึ่งมีสิ่งต่างๆ ของตนเอง แต่เชื่อมต่อกับเมืองใกล้โดยรถพ่วง เพื่อที่เมืองในวงแหวนทั้งหมดจะรวมเป็นนครเดียว เป็นที่รับรองว่าคุณจะสามารถใช้เวลา 5 นาที เดินไปยังสถานีขนส่ง ขึ้นรถอีก 5 นาทีไปยังเมืองซึ่งอยู่ห่างไป 10 สถานี และใช้เวลาอีก 5 นาทีเดินไปยังจุดหมายที่ต้องการได้ คนให้ข่าวสารผมเชื่อว่าจะใช้เวลาเพียงครึ่งเดียวของเราที่จะใช้ในการเดินทางเท่ากัน โดยจะหมดปัญหาที่จอดรถ การจราจร และแน่นอนปัญหามลภาวะ

แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับเมืองปัจจุบันเมื่อเกิดเมืองจิ๋วใหม่ๆเหล่านี้ขึ้น นครใหญ่ๆจะค่อยๆยุบไป ถึงแม้ว่าจะมีการรักษาบางเขตไว้เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์ (แสดงถึง "อดีตที่ป่าเถื่อนของเรา" อย่างที่พวกเด็กผู้ชายพูดตลกกัน) บรรดาที่ดินจะกลับไปเป็นทุ่งหญ้า ป่า สวนผลไม้ หรือสวนครัว ปรากฏว่ากลุ่มจากในเมืองมักจะมีที่ดินในชนบท ซึ่งอาจมีเพิงขนาดเล็กและอาจปลูกพืชผัก หรือเพียงเพื่อใช้เปลี่ยนบรรยากาศ

เมื่อออกจากอัลวิโซ เราโดยสารด้วยรถพ่วงไปยังเรดวูดซิตี้ ซึ่งจะเห็นกระบวนการหวนกลับกำลังดำเนินอยู่ เมืองใหม่ 3 เมืองเกิดขึ้นที่นั่นตามริมอ่าว คั่นระหว่างกันด้วยที่โล่งเป็นระยะครึ่งไมล์หรือกว่านั้น และมีเมืองใหม่อีก 2 เมืองอยู่ในระหว่างก่อสร้างในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของวงแหวนไกลจากอ่าวหลายไมล์ไปยังเชิงเขา พื้นที่อยู่อาศัยชานเมืองแต่ก่อนซึ่งอยู่ระหว่างเมืองใหม่ได้เปลี่ยนไปแล้วเป็นป่าสลับเพื่อทดแทนกับที่ใช้ไปในการส่งออกมอเตอร์ไฟฟ้า และชื่นส่วนโลหะอื่นๆเท่านั้น

มีเด็กๆตกปลาที่ท่าเรือโรงงาน มีน้ำใส ชาวนิเวศรัฐรักน้ำและท่าเรือเป็นแหล่งรวมเรือสวยๆทั้งที่มีการออกแบบทั้งอย่างที่เคยทำกันมาและที่แตกต่างพิสดารออกไป มัคคุเทศก์ผู้กระตือรือล้นของผมบอกว่า จากท่าเรือนี้เองที่พวกเขามักแล่นเรือขนไปตามอ่าว เข้าไปยังดินดอนสามเหลี่ยม หรือแม้กระทั่งแล่นออกทะเลโดยผ่านสะพานโกลเดนเกต แล้วแล่นเลียบฝั่งไปทางใต้มอนเตอเรย์ เรือของพวกเขาดูน่ารักแม้จะเทอะทะ และพวกเขาก็เสนอตัวอย่างภูมิใจที่จะพาผมออกไปด้วยถ้าผมมีเวลา

เราไปดูโรงงานซึ่งออกจะเป็นสถานที่ที่วุ่นวาย เช่นเดียวกับสถานที่ทำงานอื่นของนิเวศรัฐ เพื่อทดแทนกับที่ใช้ในการส่งออกมอเตอร์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนโลหะอื่นๆ เท่านั้น มีเด็กๆ ตกปลาที่ท่าเรือโรงงาน มีน้ำใส ชาวนิเวศรัฐรักน้ำและท่าเรือเป็นแหล่งรวมเรือสวยๆ ทั้งที่มีการออกแบบทั้งอย่างที่เคยทำกันมาและที่แตกต่างพิสดารออกไป มัคคุเทศก์ผู้กระตือรือล้นของผมบอกว่า จากท่าเรือนี้เองที่พวกเขามักเล่นเรือขนไปตามอ่าว เข้าไปยังดินดอนสามเหลี่ยม หรือแม้กระทั่งแล่นออกทะเลโดยผ่านสะพานโกลเดนเกต แล้วแล่นเลียบฝั่งไปทางใต้ยังมอนเตอเรีย์ เรือของพวกเขาดูน่ารักแม้จะเทอะทะ และพวกเขาก็เสนอตัว อย่างภูมิใจที่จะพาผมออกไปด้วยถ้าผมมีเวลา

เราไปดูโรงงานซึ่งออกจะเป็นสถานที่ซึ่งวุ่นวาย เช่นเดียวกับสถานที่ทำงานอื่นของนิเวศรัฐ ผมได้รับคำบอกเล่าว่าไม่ได้มีการจัดการโดยการใช้หลักการสายพานประกอบ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นยิ่งสำหรับการผลิตอย่างขนานใหญ่ที่มีประสิทธิภาพ มีบางอย่างซึ่งใช้การผลิตแบบอัตโนมัติ อย่างเช่นการผลิตมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วงล่าง และส่วนสำคัญอื่นๆ อย่างไรก็ตามการประกอบจะทำโดยกลุ่มคนงานซึ่งจะยึดแต่ละส่วนเข้ากันทีละอย่างๆ โดยหยิบมาจากกองชิ้นส่วนซึ่งเต็มอยู่เสมอโดยระบบอัตโนมัติ โรงงานจะมีลักษณะเงียบและน่าดูเมื่อเปรียบกับโรงงานที่เสียงดังในดีทรอยท์ และคนงานก็ไม่ตกอยู่ใต้ความกดดันให้เร่งผลิตอย่างในดีทรอยท์ ซึ่งแน่ละการทำให้ยานพาหนะของนิเวศรัฐมีลักษณะง่าย ๆ อย่างเต็มที่ ทำให้การวางแผนและการจัดการในการดำเนินการผลิตกระทำได้ง่ายยิ่งขึ้น ที่จริงแล้วแทบไม่มีเหตุผลเลยว่าทำไมจึงไม่ทำการผลิตอย่างอัตโนมัติเสียทั้งหมด

ผมยังได้พบอีกว่าผลผลิตส่วนใหญ่ของโรงงานไม่ได้เป็นรถสำเร็จรูปเลย เนื่องจากความคลั่งไคล้ในแบบ "ทำด้วยตนเอง" ซึ่งเป็นพื้นฐานของชีวิตชาวนิเวศรัฐ โรงงานนี้จึงผลิตออกเป็นส่วนๆ ได้แก่ "ส่วนหน้า" "ส่วนหลัง" และ "หน่วยแบตเตอรี่" แต่ละคนหรือองค์การจะนำชนส่วนเหล่านี้ไปประกอบเป็นตัวรถตามแบบของตนหลาย ๆ คันจะดูแปลกประหลาด จนทำให้มินิบัสในซานฟรานซิสโกดูธรรมดา ๆ ไป ยกตัวอย่างเช่น ผมได้เห็นรถบรรทุกทำจากเศษไม้กระดานที่ลอยซัดฝั่ง แทบทุกตารางฟุตของรถจะตกแต่งด้วยเปลือกหอยอบาโลน ปรากฏว่าเป็นรถของชุมชนประมงที่อยู่ชายฝั่ง

"ส่วนหน้า" จะประกอบด้วยล้อ 2 ล้อ ซึ่งแต่ละล้อจะขันเคลื่อนโดยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีห้ามล้อติดมาด้วย ทั้งนี้จะมีโครงการเชื่อมต่อกับระบบเลี้ยวและช่วงล่าง ๆ โดยมีพวงมาลัยแบบง่าย ๆ คันเร่ง ห้ามล้อ แผงอุปกรณ์ และไฟหน้า 1 คู่ มอเตอร์ในการขับเคลื่อนจะมีความเร็วไม่เกิน 30 ไมล์ต่อชั่วโมง (บนพื้นราบ) ดังนั้นความต้องการทางด้านวิศวกรรมจึงออกจะน้อย ถึงแม้มัคคุเทศก์จะบอกผมว่าช่วงล่างจัดเป็นวัติกรรม ที่ใช้อุปกรณ์รักษาระดับด้วยไฮดรอลิกโหลดซึ่งใช้โลหะเพิ่มเติมน้อยมาก "ส่วนหลัง" ยิ่งง่ายกว่านั้นอีก เนื่องจากไม่ต้องมีการเลี้ยวหน่วยแบตเตอรี่ซึ่งปรากฏว่าเล็กกว่าและเบากว่าแม้เปรียบเทียบกับอุปกรณ์สั่งเข้าที่ดีที่สุดจากญี่ปุ่น ออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้ได้กับรถที่มีรูปร่างต่างๆ แต่ละหน่วยจะมาสายไฟต่อม้วนเก็บ เพื่อสามารถเสียบต่อเข้ากับปลั๊กเพื่อชาร์จไฟใหม่
โรงงานได้ผลิตตัวถังตามแบบมาตาฐานหลายแบบด้ายกัน ซึ่งสามารถติตั้งหน่วยขับเคลื่อนโดยใช้หลักเกลียวเพียง 4 ตัวที่มุมทั้ง 4 (มักจะมีการถอดออกเพื่อนำไปซ่อม) ตัวถังที่สามัญและเล็กที่สุดจะคล้ายกับรถปิกอัพของเราที่ย่อลงมา มีห้องโดยสารขนาดเล็ก คนเข้าไป

หญิงครองอำนาจ : นักการเมือง เพศ และกฎหมายนิเวศรัฐ

ซานฟรานซิสโก, 27 พฤษภาคม เป็นเรื่องแน่นอนว่าการที่ประมุขของนิเวศรัฐเวราออลเวน เป็นผู้หญิงนั้นเป็นที่รู้จักกันทั่วไป แต่คนอเมริกันส่วนมากไม่ได้ตระหนักว่า พรรคเซอร์ไวรัลลิสต์ที่เธอเป็นหัวหน้าพรรคนั้นเป็นองค์กรที่ผู้หญิงกุมเสียงข้างมาก และมีบทบาทหลักในการต่อสู้เพื่อความเป็นเอกรัฐ

ขณะเดียวกับที่สมาชิกส่วนมากของพรรคเซอร์ไววัลลิสต์เป็นหญิงแต่ก็มีผู้ชายจำนวนมากเป็นสมาชิกของพรรคด้วยเช่นกัน และอันที่จริงบางคนก็อยู่ในตำแหน่งสูงของพรรคด้วย อย่างไรก็ตาม นโยบายซึ่งกำหนดตามความร่วมมือกัน และกำหนดตามหน้าที่ทางชีววิทยา โดยปกติแล้วมักถือกันว่าส่วนใหญ่มีกำเนิดมาจากเจตคติและผลประโยชน์ ของเพศหญิง พรรคฝ่ายค้านหลักคือพรรคโปรเกรสซีฟ ยังคงแสดงสิ่งที่พรรคเซอร์ไววัลลิสต์กล่าวหาว่าเป็นสิ่งที่ล้าสมัย และเป็นเจตคติแบบชายซึ่งมีลักษณะทำลายต่อปัจเจกชนนิยม ผลิตภาพ และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
นิเวศรัฐก็เช่นเดียวกับในสหรัฐที่ประชากรส่วนใหย่เป็นหญิงสมาชิกบางคนซึ่งอยู่กับพรรคมาเป็นเวลายาวนานได้บอกกับผมว่า การที่พรรคเซอร์ไววัลลิสต์เติบโตและก้าวหน้ามาได้ตั้งแต่แรกเริ่ม ก็เพราะยอมรับข้อเท็จจริงนี้ตรงไปตรงมา พร้อมๆ กับเห็นด้วยกับข้อสนับสนุนอื่น นั่นคือการที่ผู้หญิงถูกละเลยในเรื่องผลประโยชน์และความต้องการ ตลอดจนระยะเวลา 200 ปี ของการปกครองของอเมริกันแม้จะมีความก้าวหน้าในบางด้านก็ตาม "เราทนมาเป็นเวลา 2 ศตวรรษแต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น" สมาชิกเซอร์ไววัลลิสต์หญิงที่มีอิทธิพลคนหนึ่งบอกกับผมว่า
ถึงแม้ความไม่พอใจกับชีวิตภายใต้การปกครองของวอชิงตันจะหยั่งรากลึกในรัฐทางตะวันตก ในขณะที่การฉลอง 2 ศตวรรษในปี 1976 ต้องล้มเหลว ก็ปรากฏว่ามีเพียงพรรคเซอร์ไววัลลิสต์เท่านั้นที่โต้แย้งอย่างเต็มที่ว่า มีแต่การแยกตัวเท่านั้นที่เป็นความหวังเดียง ที่การ อยู่รอดอย่างเหมาะสมระยะเวลายาวและมีเสถียรภาพจะเป็นจริงขึ้นมา แต่สาเหตุที่ประชาชนในอาณาบริเวณที่เป็นนิเวศรัฐปัจจุบัน ได้หันมายอมรับทางเลือกทางการเมืองที่เสี่ยงภัยนี้ได้ก็เพราะ (อย่างน้อยก็เท่าที่ผมได้ยินมา) ยุทธวิธีที่เฉียบพลันรุนแรงประการเดียวเท่านั้น ในปี 1978 เกือบ 1 ใน 3 ของผู้แทนรัฐและ ส.ส. จำนวนมากเป็นหญิง ในการประชุมภายในของผู้นำพรรค พวกเขาได้ร่างมาตรการเบื้องต้นจำนวนมาก ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นพื้นฐานของการปกครองของนิเวศรัฐในปี 1980 การถกเถียงกันในเรื่องการนำมาตรการดังกล่าวมาใช้ให้เกิดผลในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อที่ว่า การแยกตัวเป็นสิ่งจำเป็นจะต้องกระทำหรือไม่นั้น เป็นไปอย่างยากลำบากและเกินเวลานาน

ในขณะที่ผู้หญิงได้เข้ามามีส่วนร่วม นักการเมืองชายก็ไม่ได้อยู่นิ่งเฉย ได้เกิดวิกฤตการณ์ตามมา เมื่อมีการเปิดเผยว่าผู้นำชายที่สำคัญบางคน วางแผนกำหนดสัดส่วนผู้แทนฝ่ายชายหญิงเสียใหม่ ซึ่งจะมีผลให้ผู้แทนฝ่ายหญิงลดลงไปกว่าครึ่ง ข้อเสนอดังกล่าวทำความตระหนกให้แก่คนทั่วไป ทำให้มีการแยกกันออกเป็น 2 ขั้วอย่างรุนแรงเมื่อวอชิงตันพยายามที่จะเข้าแทรกแซงในฐานะผู้แบ่งเขตเลือกตั้ง ก็เกิดการปฏิเสธกฎระเบียบของรัฐบาลขึ้นทั่วหน้า ในทุกเรื่องนับตั้งแต่ภาษีจนกระทั่งมลภาวะ สองสามเดือนแห่งความจลาจลวุ่นวายนำไปสู่การเผชิญหน้าด้วยอาวุธ และการเติบโตของกลไกลรัฐที่ควบคุมท้องถิ่นเกิดใหม่ อย่างสภาคนงานและสภาพลเมือง ซึ่งทำให้เกิดสิ่งที่เวลานี้เราต้องเรียกว่าการเป็นเอกรัฐของชาวนิเวศรัฐ

การแบ่งแยกหน้าที่ : การวิจัยและการสอนในนิเวศรัฐ

เบิร์กเลย์, 9 มิถุนายน. มหาวิทยาลัยของอเมริกาเป็นแหล่งที่มาสำคัญของนักนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และมีความสำคัญต่อการกำหนดนโยบายทางสังคมด้วยเช่นเดียวกัน แต่เพื่อให้สอดคล้องไปในทางเดียวกับความชื่นชอบต่อองค์กรที่มีขนาดเล็ก ชาวนิเวศรัฐได้พยายามแยกหน้าที่ในการวิจัยออกจากหน้าที่การสอน ทำให้เกิดมีการเพิ่มจำนวนสถาบันวิจัยขนาดเล็กออกไปอย่างกว้างขวาง โดยปกติมักจะตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย และเจ้าหน้าที่บางส่วนจะเป็นเจ้าหน้าที่ประจำ ปละบางส่วนจะเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยที่หมุนเวียนออกมาทำงานข้างนอกทั้งปี สถาบันเหล่านี้จะมีเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ 30 ถึง 100 คน ประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์ ช่างเทคนิค ช่างกลและอื่นๆ เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าใครเป็นใคร เนื่องจากบทบาททางวิชาชีพของพวกเขาไม่ได้กำหนดแน่ชัดเหมือนอย่างของเรา สถาบันเช่นว่าแห่งหนึ่งที่ผมได้ไปดูอยู่ใกล้กับมอนเตอเรย์กำลังศึกษาถึงปัญหาทางสมุทรศาสตร์และปัญหาทางชีวิวิทยาที่เกี่ยวข้องกัน อีกแห่งหนึ่งที่อยู่ทางใต้ของซานฟรานซิสโก เกี่ยวกับดาราศาสตร์ ดาราฟิสิกส์และอื่นๆ (ผมได้รับคำบอกเล่าว่า กล้องดูดาวที่ภูเขาแฮมิลตินสามารถใช้การได้อีก เนื่องจากการลดระดับมลภาวะในอากาศและการให้แสงสว่างในเมืองนับตั้งแต่เป็นเอกรัฐ) ห้องปฏิบัติการสถาบันวิทยาศาสตร์เช่นนี้สำหรับคนทั่วไปแล้วจะเห็นว่ามีอุปกรณ์พร้อมมูล และนักวิทยาศาสตร์ของนิเวศรัฐก็มักได้รับการเชิญไปยังสมัชชาระหว่างประเทศ โดยที่งานของพวกเขาได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูงสำหรับการริเริ่ม ถึงแม้ว่ามีขอบเขตไม่กว้างขวางอย่างของเรา หรือได้รับการสนับสนุนทางการเงินเท่ากับของเราก็ตามที
บรรยากาศของสถาบันวิจัยเมื่อพิจารณาถึงความรับผิดชอบระดับชาติที่ใหญ่หลวงแล้ว ค่อนข้องจะเป็นการเล่นสนุกอย่างน่าประหลาดใจบ่อยๆ ครั้งที่มีการนั่งล้อมรอบจิบกาแฟหรือชากับสูบกัญชา และโครงการหลายโครงการมักจะใช้ชุดวัสดุสร้างบ้านของเด็ก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในห้องปฏิบัติการหลายๆ แห่งใช้ไปกับเกมซึ่งผมได้รับคำบอกเล่าว่า การเล่นพวกนี้ได้ก่อให้เกิดความคิดที่แปลกๆ และใช้ประโยชน์ได้

นิเวศรัฐ ยังได้ให้การสนับสนุนกลุ่มวิจัยอิสระขนาดเล็กมากจำนวนไม่น้อยเลย ที่มักจะเป็นห้องปฏิบัติการที่มีคนเพียงสองสามคนนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากคิดว่ากลุ่มจิ๋วๆ เหล่านี้แหละที่เป็นที่มาของความคิดชั้นยอดสำหรับวิทยาศาสตร์ของนิเวศรัฐ ด้วยเหตุผลที่ไม่เป็นที่เข้าใจดีนัก แต่คิดกันว่าเกี่ยวข้องกับทัศนะที่ว่า ความคิดที่เป็นอิสระย่อมสัมพันธ์กับสถานการณ์ที่ปลอดโปร่งอิสระดังกล่าวด้วย

ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าโครงการขนาดเล็กเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างไร โดยที่ยังไม่ได้คำนึงถึงการกำกับดูแลหากว่ามีจริงปรากฏว่ามีเงินกองทุนส่วนกลางจากรัฐบาลที่จัดสรรเงินออกไป โดยกรรมการที่ปรึกษาจะมีหน้าที่ให้ทุนต่อโครงการที่มีความเสี่ยงสูงและใช้เงินมาก ซึ่งมักจะเสนอโดยนักวิทยาศาสตร์ที่มีอายุยังน้อย เชื่อกันว่าถ้าหากหนึ่งในโครงการนับร้อยปรากฏผลการค้นพบที่น่าสนใจแล้ว เงินที่ใช้ไปอาจถือได้ว่าคุ้ม ตัวอย่างที่ยกขึ้นมาคือการค้นพบกลวิธานทางโฟ***เคมี ที่สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าโดยตรงจากสาหร่ายและพืชอื่นๆ นี่เป็นผลงานของคน 2 คนในวัย 26 ปี ซึ่งมีรายงานว่าค่อนข้างเป็นพวกที่ต่อต้านสังคมและมีความสนใจที่น่าทึ่ง เป็นความสนใจที่ผนวกเอาทั้งวิชาพฤกษ์ศาสตร์ กายวิภาคของพืช และการย่อส่วนทางอิเล็กทรอนิกส์ มาผสานกันอย่างน่าประหลาด (ถึงแม้ว่าความสำเร็จครั้งนี้จะยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเอง ว่าสามารถนำมาใช้ผลิตกระแสไฟเพื่อใช้งาน แต่ก็ทำให้เขาทั้งสองได้รับรางวัลโนเบล)

ภูมิหลังทางวิทยาศาสตร์ของผมไม่เพียงพอที่จะประเมินข้ออ้างบางอย่างที่ผมได้ฟังมา แต่ผมก็ต้องเครียดพอดูกับข้ออ้างที่ว่า มีการปรับปรุงกระบวนการทางธรรมชาติในการจะผลิตสารเคมีต่างๆ อย่างที่เราจะได้จากถ่านหินและน้ำมัน การหมักซึ่งส่วนใหญ่เราใช้ในการทำน้ำเมา ได้เปลี่ยนธัญพืช บีตหวาน และพืชอื่นๆ ใช้เป็นแอลกฮอล์ ซึ่งใช้ในการทำความร้อนและในการปรุงอาหาร เช่นเดียวกับใช้ในการสร้างสารเคมีอื่นๆ ชาวนิเวศรัฐมีความภูมิใจอย่างยิ่งที่พวกเขาใช้ผลิตภัณฑ์จากปิโตเลียมเฉพาะในการหล่อลื่นเท่านั้น และจนกระทั่งพวกเขากำลังประสบความก้าวหน้าในการผลิตน้ำมันที่มีความคงทนและมีความหนืดจากพืช การขยายพันธุ์พืชมีการพัฒนาอย่างสูง และการเพาะเลี้ยงพืชได้ถึงระดับละเอียดอ่อนแบบญี่ปุ่น การวิจัยทางสมุทรศาสตร์เฉพาะทางมีความก้าวหน้าอย่างมา ยกตัวอย่างเช่น หน่วยวิจัยที่ตั้งอยู่ในทะเลได้ดำเนินงานมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เพื่อที่จะพยายามถอดรหัส "ภาษา" ของปลาโลมาและปลาวาฬ โดยเฉพาพอย่างยิ่งนักดำน้ำที่มีอุปกรณ์พิเศษใช้ชีวิตอยู่กับปลาโลมาเป็นระยะเวลานาน เหมือนอย่างที่นักชาติพันธุ์วิทยาจะทำถ้าหากต้องการจะเรียนรู้ภาษาของชนเผ่าที่ไม่เป็นที่รู้จักมาก่อน มีการวิจัยอย่างแข็งขันต่อเนื่องในการที่จะหาทางฝช้ประโยชน์มากขึ้นจากพลังแสงอาทิตย์ พลังงานลมและพลังงานคลื่น
นักวิทยาศาสตร์นิเวศรัฐมีข้อร้องเรียนเหมือนกับนักวิทยาศาสตร์ของเรา เกี่ยวกับการขาดแคลนเงินอุดหนุนสำหรับโครงการที่ปกปิดเฉพาะ มีการแสดงความไม่พอใจแม้กระทั่งเวลานี้เกี่ยวกับการยกเลิกการวิจัย เกี่ยวกับกระบวนการรวมตัวของอะตอมและการวิจัยนิวเคลียร์ ซึ่งให้พลังงานระดับสูงแต่เสียค่าใช้จ่ายมาก หลังเป็นเอกรัฐไม่นานนักแต่ปรากฏว่ามีเงินสนับสนุนอย่างเต็มที่สำหรับการศึกษาชีววิทยาพื้นฐาน และการปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิตแห่งชาติ ซึ่งภายหลังได้เป็นเอกรัฐก็ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากการทุ่มเทความพยายามทางวิทยาศาสตร์อย่างขนานใหญ่เท่านั้น

ความขาดแคลนอย่างหนึ่งของวิทยาศาสตร์นิเวศรัฐ ซึ่งทำให้นึกถึงผลเสียอย่างใหญ่หลวงต่อบางสาขาวิชาที่เกิดขึ้นจากการแยกตัวจากสหรัญ คือเราจะไม่พบอาจารย์ในสาขาวิชาซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีอยู่มากไม่ว่าจะเป็นรัฐศาสตร์ สังคมวิทยา และจิตวิทยา ไม่ว่าจะในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันวิจัยในนิเวศรัฐ ปรากฏ ว่าพวกวิชาชีพเหล่านี้หันไปหาสาขาอื่น ได้แก่ ปรัชญา ชีววิทยาและอื่นๆ หนังสือตำราจำนวนมากที่มีเนื้อหาในวิชาแบบเก่ายังคงมีอยู่ แต่ถูกถือว่าเป็นแค่ส่วนหนึ่งของความสนใจในฐานะพลเมืองทั่วๆ ไป แต่ไม่ได้ถือว่ามีจุดยืน "ทางวิทยาศาสตร์" ตรงกันข้ามวิชาประวัติศาสตร์ได้เป็นสาขาวิชาการที่เบ่งบานในนิเวศรัฐถึงแม้จะเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่น่าพึงพอใจนักในเอกสารก่อนเป็นเอกรัฐ (มีอยู่สาขาหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักน้อยมากในหมู่เรา คือ "ประ********ศาสตร์อุตสาหกรรม" เป็นการกล่าวถึงอาชญากรรมที่เป็นข้อกล่าวหาต่อผู้นำทางอุตสาหกรรมและบริษัทของอเมริกา ซึ่งเอกสารบันทึกต่างๆ ของเขาตกไปอยู่ในมือสาธารณชนในตอนที่แยกตัว) เศรษฐศาสตร์ยังเป็นสาขาที่แข็งขันอยู่ แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์ของเราส่วนใหญ่จะคลางแคลงสงสัยในเรื่องทิศทาง มานุษยวิทยาก็ยังแข็งขันอยู่มาก ความไม่สมดุลทางชีวิตวิชาการเช่นว่า อาจช่วยในการอธิบายถึงธรรมชาติของชีวิตชาวนิเวศรัฐที่ไม่มีการจัดองค์กร และมีลักษณะวุ่นวายโดยทั่ว ๆ ไป

การก่อความวุ่นวายของนักศึกษา ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเรื้อรังมานานมหาวิทยาลัยของนิเวศรัฐมากกว่าของเรา ในขณะที่ผมไปเยือนที่เบิร์กเลย์ คณบดีได้ถูกขับโดยการออกเสียงร่วมกันระหว่างนักศึกษากับอาจารย์บางคนในสภาวิทยาลัย ซึ่งเป็นการประชุมที่มีขึ้นทุก 3 เดือน การดำเนินนโยบายกระจายอำนาจจากศูนย์กลางของนิเวศรัฐ มหาวิทยาลัยถูกซอยเป็นวิทยาลัยเล็ก ๆ แยกกันออกไป แต่ละแห่งจัดการบริหารเอง โดยไม่ได้รับประโยชน์หรือถูกแทรกแซงจากฝ่ายบริหารส่วนกลาง (ในไม่ช้ามหาวิทยาลัยก็จะต้องถูกแยกไปเป็นองค์กร ที่ไม่ใช่เป็นของรัฐบาลอย่างสิ้นเชิง เช่นเดียวกับโรงเรียน)

ในระหว่างช่วงเวลาศึกษา พวกนักศึกษาจะอยู่ในวิทยาลัยและมักจะอาศัยอยู่ในอาคารที่เคยเป็นที่ทำการมาก่อน หากต่อมาได้ถูกแปรสภาพเป็นบริเวณที่พักอาศัย พวกอาจารย์จะอุทิศกำลังงานอย่างเต็มที่ในการสอน ในแต่ละวิทยาลัยจะมีกลุ่มอาจารย์ที่ได้รับการจ้างจริง ๆ จากนักศึกษา และได้รับค่าตอบแทนโดยตรงจากเงินที่เรียกเก็บจากนักศึกษา บรรดาอาจารย์ประจำวิทยาลัยซึ่งมักจะรู้สึกตัวเองว่าเก่งแต่เกิดผิดใจกับเพื่อนร่วมงานของตน จะถูกดึงตัวจากมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เป็นบางครั้งเป็นเวลา 1 ปี บางทีก็เป็นพวกนักอักษรศาสตร์หรือนักวิทยาศาสตร์ หรือนักการเงิน หรือเป็นคนธรรมดาที่มีประสบการณ์ชีวิตแปลก ๆ ซึ่งนักศึกษาปรารถนาจะรับฟังและหารือด้วยในรายละเอียด

สิ่งที่น่าแปลกใจอีกอย่างคือ การที่องค์กรนักศึกษาในสถาบันการศึกษาระดับสูงของนิเวศรัฐส่วนมากได้หดตัวลงอย่างมาก ปรากฏว่าคนเข้ามหาวิทยาลัยเพราะว่าพวกเขาชอบชีวิตปัญญาชนที่นั่น ไม่ใช่เพราะแรงจูงใจเฉพาะหน้าหรือแรงจูงใจในส่วนลึก สังคมนิเวศรัฐได้รับการจัดรูปให้ยอมรับประสบการณ์และกิจกรรม มากกว่าประกาศนียบัตรใบรับรองหรือคุณสมบัติในการรับเข้าเรียน การมีแต่เพียงปริญญาบัตรเท่านั้นแทบไม่ได้ให้สถานภาพอันใด และนิเวศรัฐไม่มีใครที่ไขว่คว้าหาปริญญาเอกอย่างของเรา (เท่าที่ผมจะบอกได้ ไม่มีงานในนิเวศรัฐซึ่งใช้ปริญญาเป็นเงื่อนไข) การยอมรับนับถือที่ให้กันขึ้นอยู่กับการบรรลุความสำเร็จ การสร้างสรรค์ และการประดิษฐ์ได้รับการตีค่าอย่างสูง ทั้งในแง่ที่เป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวที่น่าสนใจและเพราะว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคม
นี่หมายความว่ามีการเน้นน้อยลงในเรื่องความชำนาญพิเศษที่มีหนังสือรับรอง และสาขาวิชาชีพที่มีการกำหนดแน่นอน ซึ่งมักจะมีผลร้ายแรงตามมา ดังนั้นระบบแบ่งภาควิชาขนาดใหญ่ที่เบิร์กเลย์จึงถูกยกเลิก พร้อมกับหลักสูตรการบรรยายที่มีมาตรฐานหรือแบบแผนเดียวกัน บทบรรยายเหล่านี้ได้รับการถ่ายทำเป็นวิดีโอโดยอาจารย์ที่ดีที่สุด และมีอยู่พร้อมในรูปวิดีโอดิสค์สำหรับนักศึกษา และยังมีการส่งกระจายออกอากาศเป็นประจำในโทรทัศน์ ซึ่งรับหน้าที่ในการให้การศึกษาอย่างกว้างขวางหลังเป็นเอกรัฐ การศึกษาโดยการพักอาศัยในวิทยาลัยได้ใช้รูปแบบที่แถลงว่าใหม่เอี่ยมนั่นคือใช้วิธีที่ตรงข้ามกับแบบเดิม ระบบการเลือกวิชาเรียนซึ่งนักศึกษาจะเลือกเอาจากแผนกวิชาต่าง ๆ ที่เสนอ จึงเป็นเหมือนแบบการเลือกอาหารในคาเฟทีเรีย ได้หลายเป็นสถาบันสาธารณะโดยอาศัยวิดีโอ และพลเมืองคนไหนก็ตามสามารถจะเข้าศึกษาวิชาชีววิทยา วิศวกรรมศาสตร์ ดุริยางคศาสตร์หรือวิชิอื่นนับร้อยโดยสมัครเข้าร่วมในหลักสูตรที่ใช้วิดีโอ อย่างไรก็ตามนักศึกษาที่อยู่ในบริเวณวิทยาลัย ได้รับการคาดหวังให้พัฒนาความสามารถในกระบวนการเข้าร่วมกิจกรรมทางปัญญาและสร้างสรรค์อย่างกว้างขวาง ดังนั้นนักศึกษาแต่ละคนจึงถูกคะเนเอาว่า จะพัฒนาความสามารถในกระบวนการทางความคิดที่เหมาะสมกับวิชาทางด้านมนุษยวิทยา วิทยาศาสตร์ชีวภาพและกายภาพ และความคิดทางการเมือง

ที่อาจดูเหลือเชื่อสำหรับเรา คือ ความสามารถดังกล่าวถือกันว่าสามารถกำหนดได้อย่างเป็นภาววิสัย และดังนั้นจึงสามารถทดสอบได้ การจะบรรลุให้ถึงความสามารถดังกล่าวจึงถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันระหว่างนักศึกษาและอาจารย์ ที่จะจัดกลุ่มศึกษาขนาดย่อมซึ่งมีนักศึกษากลุ่มละ 20 คน ปรากฎว่าการทดสอบจะยากมาก การสอบในหลักสูตรพื้นฐานตลอดปีจะมีอยู่ตอนปลายปีเท่านั้น และได้รับการวางแผนและจัดเตรียมโดยคณะกรรมการอาจารย์ข้ามวิทยาลัย ผมได้เห็นเนื้อหาบางอย่างในการทดสอบ และพวกเขาถือว่า "ผู้ได้รับการศึกษาทั่วไป" จะต้องสามารถคิดได้อย่างแจ่มชัดเกี่ยวกับระบบโทนเสียงของวงมโหรีและหน้าที่ของต่อมไร้ท่อในแมว เมื่อตัดสินจากการพบปะสนทนาอย่างแปลกที่นี่แล้ว กล่าวได้ว่าระบบนี้ไปได้ดี
มีการจัดหลักสูตรพิเศษบางอย่างให้เช่นกัน และแม้กระทั่งหลักสูตรพื้นฐานที่เกี่ยวกับความรู้เฉพาะทางจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่ของสิ่งที่เราอาจเรียกว่าการสอนในระดับปริญญา ได้เปลี่ยนมาเป็นโครงการฝึกงานในสถาบันวิจัย ฟาร์ม โรงงานและสถาบันผลิตอื่น ๆ ของสังคม ที่นี่ถือว่านักศึกษาจะต้องมีมาตรฐานอย่างเดียวกับ "ครู" ของพวกเขา การตีพิมพ์เอกสารที่สั้นแต่ดีจะมีคุณค่ามากกว่า เอกสารที่ยาวแต่ไม่ได้เรื่อง "การประดิษฐ์" ไม่ว่าจะเป็นความคิดนามธรรมหรือข้อเสนอสำหรับกระบวนการการผลิตที่ดีขึ้น หรืองานที่สร้างสรรค์จะได้รับการยกย่องอย่างสูง และได้รับรับการพูดถึงอย่างมาก และการเข้าร่วมในชุมชนไม่ว่าจะเป็นวิทยาลัย กลุ่มที่อยู่ด้วยกัน หรือสมาคมวิชาการ ถือว่าว่ามีความสำคัญมากกว่าอะไรทั้งหมด (พวกที่เห็นด้วยและชอบอยู่โดด ๆ ตั้งสมญาวิธีการสุดท้ายว่า "การทดสอบความพร้อมเพียง")
ดังนั้นแนวความคิดที่ให้มหาวิทยาลัยเป็นสถานบริการและโรงงานผลิตปริญญาซึ่งยังคงดำรงอยู่ของเรา ได้ถูกทำลายไปแล้วในนิเวศรัฐ งานบริการในการวิจัย การพัฒนาอาวุธ การกำหนดนโยบายและเรื่องราวทำนองนี้ ซึ่งมหาวิทยาลัยยอมให้แก่ธุรกิจและรัฐบาลก่อนหน้าเป็นเอกรัฐ จึงต้องกระทำโดยองค์การซึ่งตั้งขึ้นมาใหม่ การเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงนี้ เป็นผลมาจากข้อเท็จจริงที่ว่าในขณะเป็นเอกรัฐความสนับสนุนจากรัฐบาลกลางซึ่งเคยเป็นแหล่งอุปถัมป์งานวิจัยทั้งมวลของมหาวิทยลัย ต้องสิ้นสุดลงโดยกระทันหัน สิ่งที่มาแทนท่าอาจจะไม่ยิ่งใหญ่เท่ามหาวิทยาลัยเก่าแก่ ซึ่งมีการติดต่อเชื่อมโยงกับทำเนียบขาวและวอลล์สตรีท


หน้าหลัก