คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อทำงานแทนมนุษย์ เมื่อก่อนเราเรียก
คำตอบขึ้นอยู่กับมนุษย์ แน่นอนเราก็คงพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้ทำงานที่ทำอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก แต่ที่น่า
เมื่อเราสามารถสร้างคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถหลายมิติได้แล้ว ก็ต้องทำให้มีความสามารถใน
เมื่อนักวิทยาศาสตร์สร้างคอมพิวเตอร์เช่นนี้ได้แล้ว อ้างได้หรือไม่ว่าคอมพิวเตอร์มีปัญญาอย่างเดียวกับที่มนุษย์มี ปัญหาก็คือเรา
ให้บุคคลผู้หนึ่งนั่งอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งมีสายโยงไปยังคอมพิวเตอร์สองเครื่อง เครื่องหนึ่งคือ
เราอาจจะคิดว่าวิธีการทดสอบเช่นนี้ผิวเผิน หรือไม่เป็นวิทยาศาสตร์ แต่สมมติว่าเราต้องการรู้ว่าคนผู้หนึ่งปัญญาอ่อนหรือไม่ เราสามารถทำได้โดยการสนทนากับคนผู้นั้น หรือทดลองให้เขาทำอะไรบางอย่าง (ในกรณีคอมพิวเตอร์ นอกจากจะใช้วิธีสนทนาโต้ตอบแล้ว เราสามารถให้คอมพิวเตอร์ทำอะไรบางอย่างเป็นการทดสอบเพิ่มเติม) นักจิตวิทยาอาจจะมีวิธีการที่ซับซ้อนกว่านี้เพื่อวัดไอคิวของคนผู้หนึ่ง แต่จุดมุ่งหมายสำคัญของวิธีทางจิตวิทยาอยู่ที่การดูระดับไอคิวของคนผู้นั้น ว่าถ้าปัญญาอ่อนจริง อยู่ในระดับใด ถ้าต้องการพิสูจน์แค่ว่าคนผู้นั้นปัญญาอ่อนหรือไม่ การสนทนาเป็นวิธีการที่เพียงพอแล้ว ในทำนองเดียวกัน การสนทนาก็น่าจะเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าคอมพิวเตอร์มีปัญญาหรือไม่ กระนั้นก็ดี อาจมีข้อค้านว่าวิธีการเช่นนี้ไม่เพียงพอ ซึ่งจะได้อ่านในลำดับต่อไป
วิธีทดสอบของ Turing ถือกันในวงการว่าเป็นเกณฑ์วัดว่าคอมพิวเตอร์มี AI หรือไม่ ข้อถกเถียงในปัจจุบันก็คือ เราสามารถสร้างปัญญาเทียมได้หรือไม่ มีทั้งฝ่ายที่คิดว่าสร้างได้และที่คิดว่าสร้างไม่ได้ แน่นอนถ้ามีผู้สร้าง
เหตุใดการถกเถียงกันว่าเราสามารถสร้างปัญญาเทียมได้หรือไม่จึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะคำตอบของปัญหานี้อาจเปลี่ยนความเข้าใจเกี่ยวกับมนุษย์ที่คนทั่วไปมี ปัญญาเทียมหมายถึงปัญญาอย่างที่มนุษย์มี ต่างจากของมนุษย์ตรงที่เป็นของที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่ได้เกิดเองตามธรรมชาติ แต่หากเราสามารถสร้างปัญญาขึ้นมาได้โดยใช้สสารและโปรแกรม นั่นก็หมายความว่าที่มนุษย์คิดได้นั้น ไม่ได้เกิดจากกลไกของจิตวิญญาณที่ไม่ใช่สสารและคงอยู่ถึงแม้ร่างกายของเราซึ่งเป็นสสารสูญสลายไปแล้ว แต่เกิดจากสสาร กล่าวคือการคิดเป็นผลมาจากสมองและโปรแกรมที่อยู่ในสมอง การเข้าใจเช่นนี้ทำลายความเชื่อที่ศาสนาปลูกฝังให้กับเรา เป็นการเปลี่ยนความเข้าใจเกี่ยวกับมนุษย์โดยสิ้นเชิง หากจะเถียงว่าปัญญาเทียมเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นก็ไม่ได้ช่วยอะไร ประเด็นอยู่ที่เราได้สร้างสิ่งที่เป็นอย่างเดียวกับสิ่งที่เรามี แสดงว่าสิ่งที่เรามีคือความสามารถที่จะคิดมิได้พิเศษหรือสูงส่งอย่างที่เราคิด เรามิได้เป็นประเภทที่แตกต่างจากสิ่งอื่นอย่างที่ศาสนาสอน เป็นประเภทเดียวกันแต่มีความซับซ้อนกว่า
กระนั้นก็ดี มีผู้เสนอวิธีพิสูจน์โดยไม่ต้อง
สมมติว่าคนผู้หนึ่งรู้แต่ภาษาอังกฤษแต่ไม่รู้ภาษาจีนและถูกกักไว้ในห้องหนึ่ง คนที่อยู่นอกห้อง
สมมติว่าคนในห้องทำจนชำนาญ สามารถ "ตอบคำถาม" ได้รวดเร็ว เมื่อเทียบกับคนที่รู้ภาษาจีนที่ให้
ประเด็นของ Searle ก็คือ เราสามารถสร้างโปรแกรมเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานแทนมนุษย์ จนมี
อีกประการหนึ่ง ประเด็นของ Searle ไม่ได้อยู่ที่ว่า เหตุที่คอมพิวเตอร์ไม่สามารถคิดได้เป็นเพราะต้องอาศัยการป้อนโปรแกรมโดยมนุษย์ ความจริงแล้วไม่สำคัญว่าความสามารถของคอมพิวเตอร์เกิดจากอะไร ประเด็นอยู่ที่ว่าสิ่งที่คอมพิวเตอร์สามารถทำได้นั้น เรียกได้หรือไม่ว่าเป็นการใช้ปัญญา กล่าวคือสมมติว่าวันหนึ่งเราค้นพบว่า สติปัญญาของเราเป็นผลมาจากการป้อนโปรแกรมของเทพเจ้าหรือมนุษย์ต่างดาว เราก็ยังคงเชื่อต่อไปว่ามนุษย์มีปัญญา เราจะแค่เปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับว่าปัญญาของเราเกิดจากอะไร ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ว่ามนุษย์สามารถโปรแกรมให้คอมพิวเตอร์เข้าใจความหมายได้ Searle ก็จะยอมรับว่าคอมพิวเตอร์สามารถมีปัญญาได้ แต่ Searle เชื่อว่า ลักษณะของฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์กำหนดให้คอมพิวเตอร์ทำได้แค่นำสัญลักษณ์มาประมวลผลเท่านั้น
การโต้เถียงในเรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติ จุดประสงค์ของบทเรียนนี้จำกัดอยู่แค่ให้เข้าใจว่า นักวิทยาศาสตร์ต้องการ