เพลงยาวนิราศกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท
เสด็จไปตีเมืองพม่า
เมื่อ พ.ศ. ๒๓๓๖
(ตอนต้นขาดหายไปหาไม่ได้ คงเป็นเรื่องชมพระนครศรีอยุธยา)
๏ ประกอบด้วยโภชนากระยาหาร | ทุกถิ่นฐานบริบูรณ์หนักหนา |
อยู่เย็นเป็นสุขทุกทิวา | เช้าค่ำอัตราทั้งราตรี |
ประหนึ่งว่าจะไม่มีค่ำคืน | รวยรื่นเป็นสุขเกษมศรี |
ไม่เห็นเช่นว่าจะเป็นถึงเพียงนี้ | มาเยินยับอัปรีย์ศรีศักดิ์คลาย |
ทั้งถนนหนทางอารามราช | มาวินาศสิ้นสุดสูญหาย |
สารพัดย่อยยับกลับกลาย | อันตรายไปจนพื้นปัถพี |
เมื่อพระกาฬจะมาผลาญดังทำนาย | แสนเสียดายภูมิพื้นกรุงศรี |
บริเวณอื้ออลด้วยชลธี | ประดุจเกาะอสุรีลงกา |
เป็นคันขอบชอบกลถึงเพียงนี้ | มาเสียสูญไพรีอนาถา |
ผู้ใดใครเห็นจะไม่นำพา | อยุธยาอาภัพลับไป |
เห็นจะสิ้นอายุพระนคร | ให้อาวรณ์ผู้รักษาหามีไม่ |
เป็นป่าหญ้ารกดังพงไพร | แต่จะสาบสูญไปทุกทิวา |
คิดมาก็เป็นน่าอนิจจัง | ด้วยกรุงเป็นที่ตั้งพระศาสนา |
ทั้งอารามเจดีย์ที่บูชา | ปฏิมาฉลององค์พระทรงญาณ |
ก็ทลายยับยุ่ยเป็นผุยผง | เหมือนพระองค์เสด็จดับสังขาร |
ยังไม่สิ้นศาสนามาอรธาน | ทั้งเจดีย์วิหารก็สูญไป |
เสียดายพระนิเวศน์บุรีวัง | พระที่นั่งทั้งสามงามไสว (๑) |
ตั้งเรียบระเบียบขั้นเป็นหลั่นไป | อำไพวิจิตรรจนา |
มุขโถงมุขเด็จมุขกระสัน | เป็นเชิงชั้นลวดลายล้วนเลขา |
เพดานในไว้ดวงดารา | ผนังฝาดาดแก้วดังวิมาน |
ที่ตั้งบัลลังก์แก้วทุกองค์ | ทวารลงอัฒจันทร์หน้าฉาน |
ปราบพื้นรื่นราบดังพระลาน | มีโรงคชาธารตระการตา |
ทิมดาบคดลดพื้นกำแพงแก้ว | เป็นถ่องแถวยืดยาวกันหนักหนา |
เป็นที่แขกเฝ้าเข้าวันทา | ดั่งเทวานฤมิตประดิษฐ์ไว้ |
สืบทรงวงศ์กษัตริย์มาช้านาน | แต่บุราณแล้วไม่นับพระองค์ได้ |
พระที่นั่งซึ่งตั้งอยู่ข้างใน | มีสระชลาลัยชลธี |
ชื่อที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ | ที่ประพาสมัจฉาในสระศรี |
ทางเสด็จเสร็จสิ้นสารพันมี | เป็นที่กษัตริย์สืบมา |
ก็สูญสิ้นศรีมลายหายหมด | จะปรากฏสักสิ่งไม่มีว่า |
อันถนนหนทางมรรคา | คิดมาก็เสียดายทุกสิ่งอัน |
ร้านเรียบเป็นระเบียบด้วยรุกขา | ขายของนานาทุกสิ่งสรรพ์ |
ทั้งพิธีปีเดือนทุกคืนวัน | สารพันจะมีอยู่อัตรา |
ฤดูใดก็ได้เล่นเกษมสุข | แสนสนุกทั่วเมืองหรรษา |
ตั้งแต่นี้แลหนาอกอา | อยุธยาจะสาบสูญไป |
จะหาไหนได้เหมือนกรุงแล้ว | ดังดวงแก้วอันสิ้นแสงใส |
นับวันแต่จะยับลับไป | ที่ไหนจะคืนคงมา |
ไป่ปรากฏเหตุเสียเหมือนดังนี้ | มีแต่บรมสุขา |
ครั้งนี้มีแต่พื้นพสุธา | อนิจจาสังเวชทนาใจ |
ทั้งนี้เป็นต้นด้วยผลเหตุ | จะอาเพศกษัตริย์ผู้เป็นใหญ่ |
มิได้พิจารณาข้าไท | เคยใช้ก็เลี้ยงด้วยเมตตา |
ไม่รู้รอบประกอบในราชกิจ | ประพฤติการแต่ที่ผิดด้วยอิจฉา |
สุภาษิตท่านกล่าวเป็นราวมา | จะตั้งแต่งเสนาธิบดี |
ไม่ควรอย่าให้อัครฐาน | จะเสียการแผ่นดินกรุงศรี |
เพราะไม่ฟังตำนานโบราณมี | จึงเสียทีเสียวงศ์กษัตรา |
เสียยศเสียศักดิ์นัคเรศ | เสียทั้งพระนิเวศน์วงศา |
เสียทั้งตระกูลนานา | เสียทั้งไพร่ฟ้าประชากร |
สารพัดจะเสียสิ้นสุด | ทั้งการยุทธก็ไม่เตรียมฝึกสอน |
จึงไม่รู้กู้แก้พระนคร | เหมือนหนอนเบียนให้ประจำกรรม |
อันจะเป็นเสนาธิบดี | ควรที่จะพิทักษ์อุปถัมภ์ |
ประกอบการหว่านปรายไว้หลายชั้น | ป้องกันปัจจาอย่าให้มี |
นี่ทำหาเป็นเช่นนั้นไม่ | เหมือนไพร่ชาติชั่วช้ากระทาสี |
เหตุภัยใกล้กรายร้ายดี | ไม่มีที่จะรู้สักประการ |
ศึกมาแล้วก็ล่าไปทันที | มิได้มีเหตุเสียจึงแตกฉาน |
ตีกวาดผู้คนไม่ทนทาน | เผาบ้านเมืองยับจนกลับไป (๒) |
ถึงเพียงนี้ละไม่มีที่กริ่งเลย | ไม่เคยรู้ล่วงลัดจะคิดได้ |
ศึกมาชิงล่าเลิกกลับไป | มิได้เห็นจะฝืนคืนมา |
จะคิดโบราณอย่างนี้ก็หาไม่ | ชาติไพร่หลงฟุ้งแต่ยศถา |
ครั้นทัพเขากลับยกมา | จะองอาจอาสาก็ไม่มี |
แต่เลี้ยวลดปดเจ้าทุกเช้าค่ำ | จนเมืองคร่ำเป็นผุยยับยี่ |
ฉิบหายตายล้มไม่สมประดี | เมืองยับอัปรีย์จนทุกวันฯ |
๏ เหตุเสียกรุงศรีอยุธยา | เหมือนคำที่ว่าไม่เสกสรร |
ชะล่าใจเคยได้แต่ครั้งนั้น | จึงประชิดติดพันแต่นั้นมา |
แตกยับกลับไปก็หลายหน | คิดกลจะลวงให้หลงหา |
แต่งคนให้ถือหนังสือมา | เจรจาความเมืองเป็นไมตรี |
ทำไว้แต่พอให้รอรั้ง | ขยับยกเข้ามาตั้งตะนาวศรี |
จะเดินมั่นกันติดทางตี | ทำนองที่จะคิดให้ชิดไว้ |
เห็นจะผ่อนโยธาอาหาร | มันคิดการมิให้ใครสงสัย |
จะนิ่งอยู่ดูเบาเอาใจ | เห็นเหตุภัยจะเกิดการมา |
จะเร่งลัดตัดคิดมันเสียก่อน | บั่นรอนอย่าให้ทันแน่นหนา |
จำจะคิดให้ผิดแต่ก่อนมา | เป็นทัพหน้านาวายกไป |
ตามทางทะเลไปสงขลา | จะขุดพสุธาเป็นคลองใหญ่ |
ให้เรือรบออกประจบเอาเมืองไทร (๓) | ปากใต้ฝ่ายทะเลให้พร้อมกัน |
จึงจะยกไปตีเอามะริด | จะปิดปากน้ำเสียให้มั่น |
ทัพเรือมันจะพลอยเข้าช่วยกัน | จะตีบั่นเกยทัพให้ยับไป |
รบไหนจะให้ยับลงที่นั่น | แต่กึ่งวันไม่ให้ทนทานได้ |
จะทำการครั้งนี้ให้มีชัย | จะไว้เกียรติให้สืบทั้งแผ่นดิน |
มันทำเมืองเราก่อนเท่าใด | จะทดแทนมันให้หมดสิ้น |
มันจิตอหังการ์ทามิฬ | จะล้างให้สุดสิ้นอย่าสงกา |
การเสร็จสำเร็จลงเมื่อใด | ซึ่งคิดไว้ขอให้สมปรารถนา |
แม้นมิได้ก็ไม่กลับคืนมา | จะเห็นเมืองพม่าในครั้งนี้ |
เกรงกริ่งอยู่แต่ข้างทัพบก | จะไม่ยกหักได้ให้ถึงที่ |
เกลือกมันกั้นตัดทางตี | จะตัดที่เสบียงอาหารไว้ |
ไม่สมคะเนให้เรรวน | ทำป่วนไม่หักเอามันได้ |
เท่านี้ดอกที่วิตกใจ | จะทำให้เสียการเหมือนทวาย |
เมื่อชนะแล้วกลับแพ้ให้แชไป | จึงเสียชัยเสียเชิงไม่สมหมาย |
พากันหนีแต่ไม่มีอันตราย | ถ้าเสียหายอย่างอื่นไม่เป็นไร |
อันกรุงรัตนอังวะครั้งนี้ฤา | จักพ้นเนื้อมืออย่าสงสัย |
พม่าจะมาเป็นข้าไท | จะได้ใช้สร้างกรุงอยุธยา |
แม้นสมดังจิตไม่ผิดหมาย | จะเสี่ยงทายตามบุพเพวาสนา |
จะได้ชูกู้ยกนัครา | สมดังปรารถนาทุกสิ่งอัน |
ถ้าเสร็จการอังวะลงตราบใด | จะพาใจเป็นสุขเกษมสันต์ |
อ้ายชาติพม่ามันอาธรรม์ | เที่ยวล้างขอบขัณฑ์ทุกพารา |
แต่ก่อนก็มิให้มีความสุข | รบรุกฆ่าฟันเสียหนักหนา |
แต่บ้านร้างเมืองเซทั้งวัดวา | ยับเยินเป็นป่าทุกตำบล |
มันไม่คิดบาปกรรมอ้ายลำบาก | แต่พลัดพรากจากกันทุกแห่งหน |
มันเหล่าอาสัตย์ทรชน | ครั้งนี้จะป่นเป็นธุลี |
เพราะเหตุบาปกรรมมาซ้ำเติม | จะพูนเพิ่มให้ระยำยับยี่ |
ด้วยทำนายว่าไว้แต่ก่อนมี | เหมือนครั้งมอญไปตีเอานัครา |
คือหงส์มาหลงกินน้ำหนอง | เหตุต้องเมืองมอญหงสา |
ตัวนายอองไจยคือพรานป่า | คิดฆ่าหงส์ตายจึงได้ดี |
คือพม่ามาตีเอามอญได้ | ก็สมในทำนายเป็นถ้วนถี่ |
ยังแต่พยัคฆ์เรืองฤทธี | จะกินพรานที่ยิงหงส์ตาย |
บัดนี้ก็ถึงแก่กำหนด | จะปรากฏโดยเหตุเป็นกฎหมาย |
ทัพเราเข้าต้องคำทำนาย | คือเสือร้ายอันแรงฤทธา |
จะไปกินพรานป่าที่ฆ่าหงส์ | ให้ปลดปลงม้วยชีพสังขาร์ |
แล้วมีคำทำนายบุราณมา | ว่าพม่าจะสิ้นซึ่งรูปกาย |
ถ้าผู้ใดใครเห็นให้เขียนไว้ | จึงจะได้ประจักษ์สืบสาย |
เห็นเป็นเหตุต้องเหมือนคำทาย | อังวะจะฉิบหายในครั้งนี้ |
ถ้าพร้อมใจพร้อมจิตช่วยคิดการ | จะสำราญทั่วโลกเกษมศรี |
นี่จนใจสิ่งไรก็ไม่มี | เห็นทีจะตะพายไปตามจน |
จะไปได้ฤามิได้ยังไม่รู้ | จะเสือกสู้ไปตามขัดสน |
ถ้าสุดคิดผิดหมายที่ผ่อนปรน | ก็จะบนบวงสรวงแก่เทวา |
เดชะเทเวศร์ช่วยอวยชัย | ที่คิดไว้ขอให้สมปรารถนา |
ตั้งแต่สวรรค์ชั้นกามา | ตลอดจนมหาอัครพรหม |
ขอจงมาช่วยอวยพรชัย | ที่มาดไว้ให้ได้ดังประสงค์ |
จะดลใจไทยกรุงให้นิยม | ช่วยระดมกันให้สิ้นศึกเอยฯ |
(๑)
พระที่นั่งวิหารสมเด็จ พระที่นั่งสรรเพชญ์ปราสาท พระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์
กลับไปที่เดิม
(๒)
กล่าวท่อนนี้ด้วยทัพมังลอง
กลับไปที่เดิม
(๓)
เห็นจะคิดสืบสวนกันหาช่องที่ไม่มีเขาสูง แต่ภายหลังคงทราบแล้วว่าทำไม่สำเร็จ ด้วยกว้างเหลือเกินจึงไม่คิดลงไปสงขลาทีเดียว
กลับไปที่เดิม