Translation 1: Grammar-Translation Method

[¶1; 1] Place your fingers against your throat while you are speaking.

ลองเอามือทาบคอเวลาพูด

[2] You will feel vibrations.

จะรู้สึกแรงสั่น

[3] Vibrations are the source of all sounds, including your voice.

การสั่นเป็นต้นกำเนิดของเสียงทั้งหลาย รวมทั้งเสียงของคุณด้วย

[¶2; 4] When you speak, vibrations set particles of air in motion.

เวลาเราพูด แรงสั่นสะเทือนทำให้อนุภาคอากาศเคลื่อนไหว

[5] The particles themselves do not travel any distance.

อนุภาคเองไม่ได้เคลื่อนที่ไป

[6] It is the motion that travels—like a push traveling down a line of people.

การเคลื่อนไหวนั้นเองเป็นตัวเคลื่อนที่ เหมือนแรงผลักเคลื่อนตัวผ่านแถวคนที่ยืนเรียงติดกัน

[¶3; 7] The motions caused by vibrations are called sound waves.

การเคลื่อนที่ที่เกิดจากการสั่นนี้เรียกว่าคลื่นเสียง

[8] Sound waves can travel through the air and other gases.

คลื่นเสียงเคลื่อนที่ได้ในอากาศและในก๊าซต่าง ๆ

[9] They can travel through liquids and through solids.

ในของเหลวและในของแข็ง

[¶4; 10] When sound waves hit a hard, fairly smooth surface at the correct angle,

เมื่อคลื่นเสียงกระทบของแข็งที่พื้นผิวค่อนข้างเรียบในองศาที่พอเหมาะ

they are reflected back toward their source.

คลื่นจะสะท้อนกลับมายังแหล่งกำเนิดเสียง

[11] If they hit a rough surface, the sound waves break up and there is no echo at all.

ถ้าคลื่นเสียงกระทบพื้นผิวหยาบ คลื่นจะแตกตัวและไม่เกิดเสียงสะท้อน

[¶5; 12] You are taught in arithmetic, Rate times Time equals Distance.

ในวิชาคณิตศาสตร์ เราเรียนกันว่า อัตราเร็วคูณเวลาเท่ากับระยะทาง

 
[14] This simple formula lets people make use of echoes. 

สูตรคำนวนง่าย ๆ นี้ทำให้เราใช้ประโยชน์จากเสียงสะท้อนได้

[15] Cave explorers and mountain climbers sometimes use echoes to measure distance.

บางครั้งนักสำรวจถ้ำและนักปีนเขาจะใช้เสียงสะท้อนเป็นตัววัดระยะทาง

[16] Knowing the speed of sound, they can time an echo and judge the distance of the reflecting surface.

เพราะเรารู้ความเร็วเสียง จึงจับเวลาเสียงที่สะท้อนกลับมาเพื่อหาระยะห่างพื้นผิวที่เสียงตกกระทบได้

Translation 2: Sample for Critique

หากคุณลองเอานิ้ววางบนคอ ขณะกำลังพูด  คุณจะรู้สึกว่ามีการสั่น   การสั่นคือแหล่งกำเนิดของเสียงต่างๆ ทุกเสียง รวมทั้งเสียงพูดของเราด้วย

เวลาที่เราพูด การสั่นจะทำให้อณูของอากาศเคลื่อนไหว ตัวอณูเองมิได้เคลื่อนที่ไปไหน  แต่การเคลื่อนไหวต่างหากเป็นตัวเคลื่อนที่  ในลักษณะเดียวกับเวลาที่เราผลักคนที่ยืนกันอยู่เป็นแถว

การเคลื่อนไหวอันเกิดจาก การสั่นเช่นนี้เรียกว่าคลื่นเสียง    คลื่นเสียงเดินทางไปในอากาศและก๊าซอื่นๆ   เดินทางไปในของเหลวและของแข็งก็ได้เช่นกัน

เมื่อคลื่นเสียงไปกระทบ พื้นผิวแข็งและค่อนข้างเรียบในมุมที่เหมาะ  มันก็จะสะท้อนกลับไปยังแหล่งกำเนิดของมัน  ถ้าหากไปกระทบพื้นผิวที่ขรุขระ  คลื่นเสียงจะแตกกระจายและจะไม่เกิดเสียงสะท้อนเลย

เราได้เรียนมาในวิชา คณิตศาสตร์แล้ว  อัตรา คูณ เวลา เท่ากับ ระยะทาง  สูตรง่ายๆ นี้ทำให้เราได้ใช้ประโยชน์จากเสียงสะท้อนได้  นักสำรวจถ้ำและนักปีนเขาบางครั้งก็ใช้เสียงสะท้อนวัดระยะทาง  เมื่อเขารู้ความเร็วของเสียง  เขาก็จะสามารถจับเวลาของเสียงสะท้อนและระบุระยะทางของพื้นผิวที่เป็นตัวสะท้อนเสียง ได้