ปัจจุบันเราได้ยินหรือได้อ่านเกี่ยวกับเรื่องสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาบ่อย การพูดกันในเรื่องนี้จะเกี่ยวกับ ภาพยนตร์ เพลง ข้อเขียน โปรแกรมคอมพิวเตอร์ กล่าวคือถือกันว่าการก๊อปปี้หนัง เพลง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ครองสิทธ์ เป็นการขโมย และดังนั้นเป็นสิ่งผิดในแง่ที่เป็นการละเมิด
สิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่งก็คือทรรศนคติที่คนมีเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา เราจะเห็นว่าการลักขโมย
ผลผลิตทางปัญญานั้น เราสามารถเอาไปใช้ได้โดยไม่ขออนุญาตจากเจ้าของ โดยที่เจ้าของเองยังสามารถ
กระนั้นก็ดี กฏหมายแทบทุกประเทศปกป้องสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา และเจ้าของผลผลิตทางปัญญาก็
แต่ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจเสียก่อนเกี่ยวกับกลไกที่กฏหมายใช้ในการปกป้องสิทธิในทรัพย์สินทาง
สิทธิบัตรและลิขสิทธิ์ต่างจากความลับทางการค้าตรงที่ ผลผลิตที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมาย
๒ ประเภทนี้เป็นสิ่งเปิดเผยต่อสาธารณชน เพราะสร้างขึ้นมาเพื่อให้คนทั่วไปใช้ โปรแกรมคอมพิวเตอร์
ได้รับความปกป้องภายใต้กฏหมายลิขสิทธิ์เพราะถูกจัดอยู่ในประเภทเดียวกับวรรณกรรม
ต่อไปเราจะมาดูกันว่า มีเหตุผลหรือไม่ที่จะให้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้รับความคุ้มครองตามกฏหมายลิขสิทธิ์ ประเด็นของการโต้เถียงอยู่ที่ว่า ควรหรือไม่ที่กฏหมายจะให้สิทธิในทรัพย์สินแก่ผู้สร้างผลิตผลทางปัญญา ในเมื่อผลิตผลประเภทนี้มีลักษณะพิเศษ กล่าวคือคนทั้งหลายสามารถใช้ผลิตผลนี้ได้โดยไม่กระทบการใช้
๑. ความลับทางการค้า (Trade secrets) เช่นข้อมูลต่าง ๆ ของบริษัทเกี่ยวกับกรรมวิธีในการผลิต สินค้าใหม่ที่กำลังจะออก ผู้ใดนำไปเปิดเผย หรือมาขโมยไปย่อมถูกลงโทษ ตัวอย่างกรณีพิพาทเรื่องความลับ
๒. สิทธิบัตร (patents) เมื่อผลผลิตหนึ่งได้รับสิทธิบัตร เจ้าของเป็นผู้เดียวเท่านั้นที่มีสิทธิในการใช้
๓. ลิขสิทธิ์ (copyrights) เป็นสิทธิในการที่จะตีพิมพ์ หรือแสดงผลงาน หรือแจกจ่ายสำเนาของผลงาน มักจะมีอายุ ๕๐ ปีหลังจากผู้สร้างเสียชีวิตแล้ว ลิขสิทธิ์ใช้ปกป้องงานวรรณกรรม ต่างจาก
สิทธิบัตรตรงที่