เรียบเรียงจาก...http://members.ozemail.com.au/~caveman/Creative/Children/index.html
โดยธรรมชาติเด็กมีความอยากรู้อยากเห็นและสร้างสรรค์ อย่างไรก็ตามการสอนของเราทำให้เด็กๆเกิดความท้อใจและเกิดการเอาอย่าง ถูกกีดกันความอยากรู้อยากเห็นของเด็กๆเหล่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าใจที่ระบบการศึกษาแบบมาตรฐานถูกจัดขึ้นเพื่อสอนให้เด็กเป็นอย่างผลิตผลจากโรงงานทำให้เกิดผลร้ายมากกว่าสิ่งใดๆทั้งหมด เมื่อโตเป็นคนหนุ่มสาวขึ้น เราก็ต้องกลับมาเรียนรู้ความสามารถที่เคยมีมาแต่เกิดกันใหม่ ให้มีความอยากรู้อยากเห็นคล้ายเด็ก (ตรงข้ามกับการเป็นเหมือนเด็ก) เพื่อให้มีความคิดสร้างสรรค์และเรียนรู้การเล่นว่าเป็นเช่นไรอีก Harry Chapin มีบทเพลงที่เกี่ยวข้องกับการทำให้จิตวิญญานที่สร้างสรรค์โดนทำลายไป บทเพลงนี้ชื่อว่า Flowers are Red.
เดี๋ยวนี้เราได้เห็นความสำคัญที่จะสนับสนุนให้เด็กๆมีความคิดสร้างสรรค์แท้จริง และต่อเนื่องไปถึงวัยเจริญเติบโตในช่วง ๕ ปีแรกของชีวิต การสนับสนุนโดยพ่อแม่และครู เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆในชีวิตภายภาคหน้า
ในขณะที่มีแหล่งความรู้ของความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งสำคัญและสัมพันธ์กับเด็ก มีเพียงเล็กน้อยที่เกี่ยวข้องเป็นพิเศษกับเด็กและส่งเสริมให้มีการเพิ่มพูนมากขึ้น สิ่งสำคัญที่ดีที่สุดสำหรับเด็กคือการสนับสนุนอะไรก็ตามที่เด็กกระทำและให้เป็นที่ยอมรับด้วย เด็กจะเรียนรู้จากพ่อแม่โดยตรงและนำมาเป็นเครื่องชี้ทางของเขาต่อไป
ตอนเป็นเด็กเราได้ฟังเรื่องราวที่ Mozart แต่งเพลงซิมโฟนีตอนเขาอายุเพียงแค่ ๕ ขวบ ทำให้เราฉงนสนเท่ห์ เราเข้าใจเพียงว่านี่เป็นความสามารถของคนที่เป็นอัจฉริยะเท่านั้นและเราไม่สามารถจะกระทำสิ่งนั้นได้ จึงไม่เคยลองกระทำเช่นนั้นเลย
โปรดลองอ่านเรื่องแทรกนี้ดู.. "เจ้าชายน้อย"..... (The Little Prince.)
มีแหล่งความรู้มากมายทั้งบนสื่ออินเทอร์เนทและที่อื่นๆ เพื่อส่งเสริมเด็กๆในเรื่องความคิดสร้างสรรค์
Dr. Maria Montessori พัฒนาเทคนิควิธีการสอนสำหรับเด็กอายุระหว่าง ๒-๕ ขวบ โดยใช้วิธีสัมผัสทางประสาททั้ง ๕ โดยเฉพาะการจับต้องเพื่อสำรวจความเข้าใจสิ่งของต่างๆรอบตัวเอง
มีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับตัวเธอและวิธีการของเธอบนสื่ออินเทอร์เนท คือ..
เกี่ยวข้องกับคำนำพื้นฐานที่ดีของวิธีการ Montessori
แหล่งข้อมูลของ Montessori และโรงเรียนที่สนับสนุนวิธีการนี้
แหล่งความเข้าใจที่สมบูรณ์สำหรับโรงเรียนที่บ้านตามวิธีการของ Montessori .
ค้นหาได้จากแหล่งข้อมูลต่อไปนี้...
Rudolf Steiner Articles archive. มีการปรับปรุงเสมอๆ
Waldorf Schools and Various Links
หนังสือทั่วๆไปเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็กๆ รวมทั้งหนังสือเขียนโดย Edward de Bono เรื่อง "The Dog Exercising Machine" และเรื่อง "Teaching your child to think" รวมทั้งเรื่อง "Cognitive Research Trust (CORT)" เกี่ยวกับบทเรียนและวิธีการของ De Bono อีกทั้งเรื่อง "FREE TO BE, YOU AND ME" เขียนโดย Brain Teasers อ่านสนุกมาก
เช่นหนังสือเกี่ยวกับ Sherlock Holmes และ Encyclopedia Brown สามารถช่วยส่งเสริมเด็กๆฝึกหัดทักษะการคิด และขอแนะนำเรื่อง "The Little Prince" เขียนโดย Antoine de Sainte Exupery และเรื่องชุดต่อเนื่องชื่อ "The Great Brain" เป็นต้น
กรุณาส่งคำแนะนำและรายชื่อหนังสืออื่นๆไปที่ Bill Paton
นิตสารเป็นสิ่งที่น่าสนใจของเด็กๆ เพราะมันมีสีสรร และเขาสามารถใส่ใจได้เร็วและง่ายในช่วงเวลาสั้นๆ (ถือเป็นความสนใจหลายๆเรื่องอย่างแท้จริง)
นิตยสารสำหรับเด็กรวมทั้ง OWL และCHICKADEE, National Geographic WORLD, National Geographic ที่นิยมทั่วไป
โปรดแนะนำรายชื่อนิตยสารอื่นๆไปที่ Bill Paton
รายการโดยทั่วไปของโทรทัศน์ที่มี เป็นสิ่งบั่นทอนความคิดสร้างสรรค์ เพราะทำให้คนดูเฉื่อยชา (ตามที่ McLuhanเรียกว่าเป็น Cool Medium) และเกิดความสนใจในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นรายการละคอน The Simpsons เป็นลักษณะของการแดกดัน อย่างไรก็ตามโทรทัศน์ยังถือว่าเป็นสื่อที่สำคัญในการเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง เช่นด้านวัฒนธรรมและมุมมองที่แตกต่างกัน วิทยาศาสตร์และเรื่องราวต่างในประวัติศาสตร์ อื่นๆเป็นต้น มันสามารถส่งการเรียนรู้ที่มีอำนาจสำหรับเด็กไปถึงบ้านโดยตรง
รายการที่น่าสนใจสำหรับเด็กๆมีแนะนำดังนี้:
BEAKMAN'S WORLD
เป็นการมองวิทยาศาตร์ในเชิงตลกขบขัน
BILL NYE, SCIENCE GUY
เรื่องตลกทางวิทยาศาตร์อีกรายการเช่นกัน
READING RAINBOW
รายการนำการอ่านหนังสือเพื่อชีวิต โดยมี Levar Burton เป็นพิธีกร
SESAME STREET
รายการโชว์ยอดนิยม ได้รับการสนับสนุนโดย THE LETTER M.
OWL TV
รายการที่เป็นเลิศ เกี่ยวกับกลุ่มเพื่อนๆที่เรียนเรื่องราวต่างๆทางวิทยาศาตร์ มีโครงกระดูกเป็นเพื่อนแสดงคนหนึ่ง
F.R.O.G
"Foundation For Research and Other G..."
รายกายที่น่าสนใจคล้าย OWL แต่เหมาะสำหรับกลุ่มเด็กอ่อนวัย
กรุณาแนะนำรายการอื่นๆไปที่ Bill Paton
เด็กๆชอบการสะสมสิ่งของต่างๆ และสิ่งเหล่านี้สามารถส่งเสริมให้เขาเหล่านั้นมีความคิดสร้างสรรค์และความเชื่อมั่นในตนเอง
เครื่องเล่น LEGO (อาจมีเว็บไซท์ของตนเอง) มีฐานทางระบบคอมพิวเตอร์สามารถช่วยประกอบการสร้าง lego blocks เข้าด้วยกัน ด้วยการควบคุมจากเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างง่าย เด็กสามารถสร้างให้เป็นหุ่นยนต์เคลื่อนไหว ROBOTS. COOL!!!!
CURIOCITY'S FREEZONE! เกี่ยวกับโครงการต่างๆ
CANADIAN KIDS HOMEPAGE เกี่ยวกับพ่อแม่และเด็ก
YES SCIENCE MAGAZINE โครงการต่างๆดำเนินการได้ที่บ้าน
หนังสือของNed Herrmann ชื่อ Creative Brain ให้ข้อมูลที่ดีสำหรับเด็ก เช่น:
ปรับปรุงสุดท้าย: วันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ. 1997